เที่ยวเขตLombardia part III
..."ต้องเริ่มจากเหล้าก่อนอาหาร aperitivi มีบาร์ที่ทันสมัยและเท่ในย่าน Navigli ที่นี่มีลำคลอง Milanese ที่เคยเชื่อมต่อจากมิลานไปยังเมืองเจนัวเพื่อใช้ระบายสินค้าในสมัยก่อนเพราะ มิลานไม่มีอาณาเขตติดทะเล แต่ปัจจุบันมันกลายเป็นแหล่ง hang out ที่เต็มไปด้วยบาร์และร้านอาหารเก๋ไก๋..
ชิม Lombard cuisine
เช่นเดียวกับเมืองอื่นๆในอิตาลี มิลานมีวัฒนธรรมการทำอาหารท้องถิ่นของตัวเอง ต้องทราบก่อนว่าโดยทั่วไปนั้นคนอิตาลีทางตอนเหนือกับทางตอนใต้นั้นต่างกันพอสมควร ในขณะที่คนทางใต้จะทำอะไรแบบง่ายๆ laid back ไม่รีบร้อนพักเบรกนานมีวัฒนธรรมการหลับกลางวันหลังอาหารที่เรียกว่า Siesta แบบในสเปน ไม่มีอุตสาหกรรมหนักมากนักนอกจากการต่อเรือในแถบทางใต้,การแต่งตัวก็เรียบง่าย ส่วนอาหารจะเน้นการปรุงอาหารด้วยน้ำมันมะกอกแบบอาหารเมดิเตอร์เรเนียนเป็นหลักไม่ใช้เนย แต่คนทางเหนือนั้นขยันกระตือรือล้นไม่นอนกลางวันแต่งตัวเนี้ยบหรูอาจเพราะมีอากาศที่หนาวแตกต่างกันกับทางใต้มาก ที่สำคัมีความเป็นระเบียบกว่าเพราะอยู่ใกล้วัฒนธรรมที่เรียกว่าเป็น cosmopolitanของยุโรป เช่นคนสวิสคนเยอรมัน อาหารส่วนใหญ่ปรุงด้วยเนยมากกว่าน้ำมันมะกอก และเป็นเรื่องปกติสำหรับอาหารอิตาเลียนเหนือที่จะทานข้าวที่เรียกว่า Rissotoบ่อยครั้งกว่าพาสต้า เกือบจะไม่มีมะเขือเทศหรืออาหารจานปลามากนักอยู่ในตำหรับอาหารแบบดั้งเดิมของเมืองมิลาน
Risotto allo Zafferano(ข้าวเม็ดอ้วนที่มีสีเหลืองจากsaffron) cr.pic. http://ricette.giallozafferano.it/
ลองมาดูอาหารจานเด่นต้นกำเนิดจากเมืองมิลานครับ
-cotoletta alla Milanese เนื้อลูกวัวชุบเกล็ดขนมปัง (เนื้อหมูและไก่งวงก็สามารถนำมาใช้แทนได้) ชุปแป้งไข่และเกล็ดขนมปังป่นทอดในเนย (คล้ายกับอาหารของเวียนนาที่เรียกว่า "Wienerschnitzel"ซึ่งถือเป็นต้นตำหรับเพราะออสเตรียเคยปกครองดินแดนตอนเหนือของอิตาลี))
- ossobuco (เนื้อน่องลูกวัวตุ๋นเสิร์ฟกับเครื่องปรุงรสที่เรียกว่า Gremolata) cr.pic http://ricette.foxlife.it/
นอกนั้นยังต้องลองรายการข้างล่างนี้
-cassoeula (ซี่โครงหมูตุ๋นและไส้กรอกกับกะหล่ำปลีสับSavoy)
- brasato (เนื้อตุ๋นหมูกับไวน์และมันฝรั่ง)
- salame Milanoซาลามี่ที่มีความนุ่มและการแทรกของไขมันแบบละเอียดมากเป็นที่นิยมบริโภคทั่วยุโรป
- Gorgonzolaชีสที่มีชื่อเสียงจากหมู่บ้านชื่อเดียวกันอยู่ใกล้ๆเมืองมิลาน
- mascarponeมาสคาร์โปนี่ ชีส ที่ใช้ในขนมดังของอิตาลีเช่น Tiramisu, Taleggio และ quartirolo - Panettone, เค้กประเพณีวันคริสต์มาส
แล้วจะไปทานที่ไหนดี?
มิลานเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีร้านอาหารระดับโลกและร้านกาแฟที่โดดเด่นในปี 2014,มิลานมีร้านอาหารถึง157 แห่งที่ มิเชลินแนะนำและโดยเฉพาะ3ร้านนี้ Cracco,Sadlerและ il Luogo di Aimo e Nadia ที่มีชื่อมากๆ หลายร้านอาหารและบาร์ที่เก่าแก่จะอยู่ในย่าน Brera และ Navigli ซึ่งถือเป็นย่านประวัติศาสตร์ของเมืองมีร้านคาเฟ่ที่ชื่อ Caffè Cova ก่อตั้งขึ้นในปี 1817 และร้านกาเฟแบบนี้อีกถึง 15 แห่งในมิลานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นคาเฟ่บาร์และร้านอาหารสำคัญทางประวัติศาสตร์ของ อิตาลี
Pic.courtesy of Aegean Airlines
ตอนเย็นการไปเที่ยวแบบคนท้องถิ่นนั้น อยากแนะนำให้ไปทานอาหารเย็นแบบที่เป็นอาหารชาวมิลานแท้ๆโดยที่ให้เริ่มจากการดื่มaperatif กันก่อน
การเริ่มต้นของชาวมิลานหลังพระอาทิตย์ตกก็มักจะต้องเริ่มจากเหล้าก่อนอาหาร aperitivi มีบาร์ที่ทันสมัยและเท่ในย่าน Navigli ที่นี่มีลำคลอง Milanese ที่เคยเชื่อมต่อจากมิลานไปยังเมืองเจนัวเพื่อใช้ระบายสินค้าในสมัยก่อนเพราะ มิลานไม่มีอาณาเขตติดทะเล แต่ปัจจุบันมันกลายเป็นแหล่งhang out ที่เต็มไปด้วยบาร์และร้านอาหารเก๋ไก๋คล้ายกับย่านบริเวณ Canal Saint Martin ใน Paris มีคาเฟ่,ร้านอาหาร,ร้านพิซซ่ามีบาร์แจ๊สไวน์บาร์เรียงรายอยู่ในแนวเดียวกับลำคลอง
การเริ่มต้นดื่ม Aperitivo Milanese หรือเครื่องดื่มก่อนอาหารหรือค็อกเทลนี้จะเริ่มเวลา 1 ทุ่มครึ่งและสามารถสิ้นสุดที่ช่วงใดก็ได้ในช่วงระหว่าง 22.00 น.หรือตี 4 เอาเป็นว่าเมาเมื่อไรก็เลิก เพราะสมัยก่อนดื่นแค่ถึง2ทุ่มก็จะย้ายไปร้านอาหารกินมื้อเย็นแค่สมัยนี้ ร้านaperativมักมีอาหารแบบกับแกล้มantipasto และเพลงจากDJ ก็แทบไม่จำเป็นต้องย้าย
cr.pic: discover.halldis.com/
ก่อนไปถึงเรื่องร้านอาหารต้องขอแนะนำเครื่องดื่ม aperativoท้องถิ่นของมิลานก่อนมันคือCampari เหล้าก่อนอาหารตัวโปรดของผม ที่อิตาลีจะจัดมันอยู่ในประเภท Bitter หรือ“เหล้าขม”นั่นแหละครับมักใช้ผสมกับโซดาหรือน้ำผลไม้ประเภทน้ำส้มหรือมะนาวเหลือง ที่อิตาลี่มีแบบบรรจุขวดผสมโซดาเสร็จมาใช้เปิดดื่มได้เลยไม่ต้องมาผสมให้ยุ่งยากบรรจุในขวดที่โดดเด่นที่ได้รับการออกแบบโดย Fortunato Depero ในปี 1932 มันมีสำนักงานใหญ่อยู่เมืองมิลานโนนี่เอง คัมพารีเป็นเหล้าแอลกอฮอล์ถือเป็นเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย ที่ส่วนผสมเหมือนยาสมุนไพรและผลไม้ (รวมถึง chinotto และ cascarilla) จึงไม่แปลกที่มันมีรสชาติเหมือนยาแก้ไอบางยี่ห้อ มันโดดเด่นด้วยสีแดงเข้ม ช่วงแรกมันเป็นสีแดงมาจากแมลงสีแดงบดแต่ก็ได้หยุดใช้สีแดงในการผลิตไปตั้งแต่ปี1904
ร้านอาหารในมิลานซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่คนท้องถิ่น
Trattoria da Abele
ร้านนี้เป็นเหมือนบทเรียนบทที่1หรือ Milan food 101 เปิดมาตั้งแต่ปี 1979 ร้านที่สะดวกสบายแห่งนี้เป็นเหมือนสถาบันอาหารสไตล์อิตาเลียนที่ดีเยี่ยมของเมืองไปแล้วรสชาติของ Milanese cuisineแบบดั้งเดิมอยู่ในเมนูของที่นี่ซึ่งจะเปลี่ยนทุกวันไม่ซ้ำในแต่ละวันลองเริ่มจากการสั่งantipastoมา1เขียงก่อนแล้วคุณจะรู้
Trattoria da Abele Via 5 20127 Temperanza Milano โทรศัพท์ : 02 2613855
Trattoria Arlati
ยินดีต้อนรับสู่ที่สุดแห่งหนึ่งของประวัติศาสตร์เป็นร้านอาหารเก่าแก่ของแท้ของเมืองมิลาน Trattoria Arlati ที่ร้านนี้คุณจะได้รับรสชาติที่เป็นเหมือนต้นฉบับของอาหาร Milanese แท้ๆ สไตล์ชนบท รายการอาหารที่มี Risotto alla MilaneseCotoletta alla Milanese และ(สินค้าชุบเกล็ดขนมปังเนื้อลูกวัวหั่นบางแล้วทอด "สไตล์" milanese หรือสั่ง Osso buco (เนื้อน่องลูกวัวกับเกรวี่และมันฝรั่งแต่ทีเด็ดอยู่ที่ไขกระดูก)
Trattoria Arlati via 47, 20126 Nota Alberto Milan โทรศัพท์ : +39026433327
***
Carlo e Camilla
คุณจะไม่พบร้านอื่นในลักษณะนี้ในเมืองมิลานเชื่อเถอะครับมันคือโรงเลื่อยถูกแปลงเป็นร้านอาหารโดยพ่อครัวใหญ่แบบอิตาเลียน Carlo Cracco ในยุคของการตกแต่งภายในแบบindustrialหรือแบบโรงงานที่มักเป็นปูนเปลือยและไม่มีฝ้าเพดานนั้นร้านอาหารที่ได้รับการออกแบบสไตล์นี้คนไม่ค่อยคุ้นเคยเพราะต้องนั่งแชร์โต๊ะกับคนอื่นที่เราไม่รู้จักต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะยาวกลางห้องพักในconceptของOsteria ก็คือง่ายๆเบสิก ไม่รู้จักกันก็มารู้จักกันที่นี่ซะสิ ไหนๆมาถึงที่นี่แล้วอย่าพลาดครีมเนื้อบางเบารสแครอท,ส้มกับโรสแมรี่,ไข่เจียวปลา cod หรือสปาเก็ตตี้แอนโชวีมะนาว ต้นหอมและ…กาแฟ !
Carlo e Camilla Via g.meda 24 มิลาน โทรศัพท์ : +39 02 8373963
***
Al Pont De Ferr
cr.pic :riviste.newbusinessmedia.it/
ย่าน Navigli คือหนึ่งในสถานบันเทิงในยามค่ำคืนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดใน Milanแต่หลายคนไปเที่ยวพื้นที่นี้เพราะเจาะจงที่จะไปทานร้านนี้เลยPont de Ferr หนึ่งใน trattoria เพียงไม่กี่แห่งที่ได้ดาว Michelin เอาเป็นว่ามามิลานทั้งที ร้านนี้คืออะไรที่สมบูรณ์แบบสำหรับการทานอาหารมื้อค่ำในแบบที่เป็นกันเองก็แล้วกัน สั้นๆ อยู่เฉยๆเดี๋ยวพ่อครัวใหญ่ Vittorio Fusari จัดให้อย่าลืมเลือกดื่มไวน์ดีสักหน่อยให้สมน้ำสมเนื้อกับอาหารนะครับ
Al Pont de Ferr Ripa di Porta Ticinese, 55, 20143 Milan โทรศัพท์ : +39 02 89406277
***
Osteria del Treno
เปิดใน Milan มาตั้งแต่ปี 1989 Osteria del Treno คือสถานที่ซึ่งให้ความเคารพต่อจารีตประเพณีผนวกกับการใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ไวน์ที่มีความโดดเด่นอยู่กว่า 70 ฉลาก เมนูที่เลือกได้รวบรวมอาหารหาทานยากและอาหารอิตาเลียนแบบดั้งเดิมแบบคลาสสิค ร้านก็มีขนาดใหญ่ได้รับประทานอาหารในบรรยากาศที่เพลิดเพลินใจ
Osteria del Treno via San Gregorio , 46, 20124 Milan โทรศัพท์ : +39 02 6700479
***
Un Posto A Milano
ถ้าชอบความดั้งเดิมแบบชนบท(Rustic) เป็นแบบโรงนาที่คุณไม่คาดหวังว่าจะได้พบใน Milan ตั้งอยู่ในใจกลางของเมือง ที่นี่คุณจะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบแบบในฟาร์มพร้อมโรงเรือนในชนบท จะเห็นว่าวัฒนธรรมและกิจกรรมการกินของคนอิตาเลียนไม่จำเป็นต้องมีความหรูหราแบบโรงแรมดีๆ แค่ต้องการเน้นเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบที่มีความสดใหม่ประกอบกับความชำนาญและรู้จริงในการปรุงอาหารจานนั้นมากกว่า
Un Posto a Milano viaCuccagna , 2 20135 มิลาน โทรศัพท์ : +39 02 5457785
***
Gino Sorbillo – Lievito Madre al Duomo
กำลังมองหาสำหรับหนึ่งในที่ที่ดีที่สุดเพื่อการทานพิซซ่าใน Milan ใช่หรือไม่? ทำไมคุณไม่ลองที่ของร้านGino Sorbillo Lievito ที่นี่คุณสามารถพบกับพิซซ่า Neapolitan ในแบบแท้ดั้งเดิมที่สุดที่อบร้อนๆสดใหม่จากเตาดินเผาอย่างน้อยวันละ 400 ชิ้นต่อวัน โดยแต่ละขั้นตอนจะกระทำตามขนบจารีตแบบ Neapolitan ใช่แล้วครับไม่ต้องลงไปถึงเนเปิลก็ได้อยู่แถวๆ'ดัวโม'นี่เอง
Gino Sorbillo – Lievito Madre al Duomo Largo Corsia dei Servi 11 , 20122 Milan โทรศัพท์ : + 39 02 453 759 30
Erba Brusca
อยู่ในบริเวณที่เป็นศูนย์กลางของเมืองในย่าน Navigli แห่งนี้คือสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่รักในในธรรมชาติ หากคุณต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมือง นี่คือสถานที่ของคุณต้องชอบ ร้านอาหารมีลักษณะเหมือนมันอยู่ในเขตพื้นที่ชนบทแต่มันกลับมาอยู่ตรงกลางของเมือง Milan และท่านจะได้รับความรู้สึกแบบบ้านอาหารที่ทำจากส่วนผสมของเครื่องเทศและผักที่เก็บมาจากแปลงสวนครัวที่นี่แหละ
Erba Brusca Alzaia Naviglio Pavese , 286 , 20142 Milan โทรศัพท์ : +39 02 8738 0711
ซื้อของ goumet ของมิลานกลับบ้านได้ที่ไหน ?
พ่อครัวชั้นดีจะใช้แต่ส่วนประกอบอาหารหรือวัตถุดิบชั้นดีเท่านั้นหากท่านเป็นfoodieหรือชอบอาหารและดื่มไวน์อยู่ด้วยคงต้องมองหาร้านแบบที่เป็น locally sourced ingredientsที่เป็นของดีต้องข้างล่างนี่เลยครับ
Culinary and gourmet food shops:
Hodeidah Torrefazione Storica; 8 Via Piero della Francesca, Milan; +39 02 342472Miracolo a Milano
เปิดในปี 1946, โดดเด่นเรื่องกาแฟเม็ดที่จะซื้อกลับไปต้มเอง แล้วก็เรื่องชีสโดยเฉพาะอิตาเลียนชีสเช่น pecorino น้ำมันมะกอกชั้นดี Salumi และไวน์
Mercato Comunale Coperto Wagner; 47 Via Stendhal, Milan; +39 02 4547 3059 ที่นี่เป็นตลาดมีหลังคาเปิดขายวัตถุดิบทำอาหารท้องถิ่นมาตั้งแต่ปี 1929 ถ้าชอบเสียงดังโล้งเล้งแบบบรรยากาศตลาดแท้แต่ได้ของดีไม่ควรพลาด