top of page

เที่ยวเขต Piedmonte part II

...."Torinesi หรือชาวตอริโนทำงานค่อนข้างหนักแต่จากนั้นพวกเขาก็ผ่อนคลายอย่างมีสไตล์ หลังจากการทำงานวัฒนธรรมที่ Torino ก็คือการมีกิจกรรมเรียกน้ำย่อย savoring aperitivi (ที่เรียกว่า apericena) เป็นการปล่อยตัวให้อร่อยไปกับเครื่องดื่มและอาหารเรียกน้ำย่อยคล้าย...."

10 เหตุผลที่เราควรมาเที่ยวโตริโนนอกจากการมากินกาแฟกับhot chocolate ต่อจากคราวที่แล้ว

cr.pic.from:nice-driver.com/

3. Torino สวยงามไปทุกที่

หากได้ดูภาพพาโนรามาของเมืองโตริโนซึ่งมีสถาปัตยกรรมแบบบารอคและคลาสสิกมากมายและยังมีback drop เป็นเทือกเขาAlpsที่มีหิมะปกคลุมทั้งปีอยู่ด้านหลัง มันเป็นอะไรที่งดงามและถือว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดในอิตาลีเมืองหนึ่ง สถาปัตยกรรมของTorino ทั้งเก่าและใหม่เป็นก็น่าดูและน่าทึ่งเพราะในยุคบาโรกช่วงปี 1700 เมื่อสภาสนับสนุนราชวงศ์Savoyให้ดึงสถาปนิกที่มีฝีมือและยิ่งใหญ่ที่สุดของอิตาลีมาที่นี่เพื่อสร้างโบสถ์โรงละคร,พลาซ่าและพระราชวังต่างๆทำให้การสร้างอาคารสถานต่างๆรอบๆต้องพิถีพิถันมากขึ้น cr.pic.from:italia.it

มีการสร้างอาเขตร้านค้าที่มีทางคนเดินแบบมีหลังคา(Porticoes)ย่าน Piazza Vittorio Veneto ใจกลางเมืองถ้าชอบสถาปัตยกรรมแบบบาโรกมาที่นี่ไม่ผิดหวังให้ ไปชม"Crown of Delights และ Stupinigi กระท่อมล่าสัตว์พระราชาเป็นตัวอย่าง ก็เพราะความมุ่งหวังของราชวงศ์ซาวอยซึ่งครองอำนาจในโตริโนสมัยนั้นคือต้องการที่จะสร้างระบบราชาสถานล้อมรอบ มีพระราชวังพระราชสำนัก,กระท่อมล่าสัตว์เป็นการสร้างความภูมิฐาน,ความยิ่งใหญ่แบบสถาปัตยกรรมในฝรั่งเศสที่เราคุ้นเคย ความพยายามในการที่จะมีชีวิตที่สวยงาม และการพัฒนาความมั่งคั่ง (Maisons de Plaisance) ระหว่างศตวรรษที่ 16 และ 18 เป็นที่มาของโครงแผนสถาปัตยกรรมของเมืองที่เรียกว่า “Corona di Delizie”หรือ Crown of Delights

ในขณะที่สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ของที่นี่ก็ไม่น้อยหน้าเมื่อ Gae Aulenti นักออกแบบที่มีชื่อเสียงมอบผลงานชิ้นเอกไว้ที่Torinoโดยสร้างสนามกีฬาสมัยใหม่​ไว้เมื่อที่นี่เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวหรืออย่างอาคารของมหาวิทยาลัยตูรินหลังใหม่

4.Torino คือ “ที่ใช่”ของนักท่องเที่ยววัยหนุ่มสาว

cr.pic.from:wikitravel

โตริโน่เป็นเมืองคลาสสิกแต่มีจิตวิญญาณที่ทันสมัยไม่แปลกเลยที่เราจะเห็นสถานที่ในเมืองที่เป็นโมเดิรนสำหรับหนุ่มสาวสมัยใหม่ ที่เรียกว่า “Hipster” มีย่านที่เป็นแหล่งวัยรุ่นเช่นแถบโรมาโนQuadrilatero Romano neighborhood พวกเขาสร้างวัฒนธรรมใหม่ของเมืองให้ดูไม่โบราณน่าเบื่อจนที่นี่ได้รับรางวัลของการเป็นเมืองหลวงแห่งเยาวชน (Youth capital of the world)การไปไหนในเมืองสะดวกระบบรถไฟใต้ดินสะอาดสะอ้านเหมาะสำหรับวัยรุ่นสมัยใหม่

5.Torino มีโรงแรมหรูและโรแมนติกหรือแบบบูติกมานำเสนอทุกรูปแบบ Luxe Traveller หรือนักท่องเที่ยวที่ติดหรูหรือต้องเน้นเที่ยวแบบมีสไตล์ชอบTorino เพราะความหลากหลายของโรงแรมที่พักที่มีให้เลือกเช่น •ระดับห้าดาวก็โรงแรมPrincipe di Piemonte อยู่บนถนนแฟชั่นVia Roma มีสปาสุขภาพรูปแบบใหม่ล่าสุดและการทำtreatmentความงาม Golden Palace Hotel เพิ่งเปิดก่อนโอลิมปิคเกมส์ 2006 การตกแต่งเลยเน้นเฉดสีทองและทองแดงเหมือนเหรียญรางวัลโอลิมปิกนั่นเอง

Grand Hotel Siteaโดดเด่นแบบคลาสสิกที่ตั้งที่อยู่ตรงจัตุรัสที่มีชื่อPiazza San Carlo NH Lingotto เป็นโรงแรมระดับ high-end ที่ทันสมัย​​ด้วยหลังคากระจกที่น่าทึ่งและมีลู่วิ่งสำหรับห้อง penthouseที่ใช้วัสดุที่มาจากลู่ทดสอบรถเฟียตในอดีต Art Hotel Boston เป็นโรงแรมบูติกแนวอาร์ตี้ที่มีห้องพักที่ตกแต่งไม่ซ้ำกันในแต่ละห้องแถมมีราคาปานกลางน่าสนใจ

6. Torino เป็นอัญมณีวัฒนธรรมของอิตาลีเหนือ

สถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สร้างความสง่างามความสวยงามของเมือง แต่ความเกรียงไกรของเมืองที่ต้องมีเพื่อเสริมทำให้เมืองนั้นเป็นเมืองชั้นนำของโลกก็คือประวัติศาสตร์ ดังนั้นเมืองนั้นๆต้องมีพิพิธภัณฑ์ชั้นนำด้วยเพื่อเป็นการเล่าเรื่องความเป็นมาหรือเพื่อโชว์ของมีค่าของเมืองเพื่อบอกว่าถ้าไม่แน่จริงของเหล่านี้คงไม่อยู่ที่นี่ โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ที่มีของมีค่าของต่างประเทศเยอะก็คือการประกาศศักดาว่าเมื่อในอดีตเรายิ่งใหญ่มากได้ไปตีที่โน่นนี่แล้วกวาดของที่มีค่าที่นั่นกลับมานั่นเอง

Torino มีพิพิธภัณฑ์ระดับโลกและcollectionที่มีค่าของราชวงศ์ซาวอยมากมาย รวมทั้งวัตถุโบราณทรงคุณค่าจากต่างประเทศโดยเฉพาะจากอียิปต์ เช่น พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง Egizio (พิพิธภัณฑ์อียิปต์) ที่นี่เป็นเจ้าของคอลเลกชันที่หลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งของวัตถุโบราณทรงคุณค่าของอียิปต์นอกกรุงไคโร

• พระราชวังจากศตวรรษที่ 17 Palazzo Reale ซึ่งเป็นที่ประทับของดุ๊กแห่งซาวอยและพระมหากษัตริย์ Torinese ซาร์ดิเนียและอิตาลี ผู้เข้าชมสามารถชมพระราชฐานLa Venaria Realeที่เพิ่งได้รับการบูรณะให้คืนรูปเป็นพระราชวังบาร็อคที่สมบูรณ์แบบและมีสวนสไตล์อิตาลีที่ยิ่งใหญ่จนยูเนสโกกำหนดให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกในอิตาลี •ท่านที่ชื่นชอบดูภาพยนตร์อาจสนใจพิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์แห่งชาติซึ่งเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดของโลกที่ทุ่มเทให้กับการถ่ายทำภาพยนตร์มาที่นี่ท่านยังได้ชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองโตริโน่จากอาคารMoleAntonelliana •ศิลปแบบเก่าและใหม่ในพิพิธภัณฑ์ปราสาท Rivoli มีของสะสมที่เป็นศิลปะร่วมสมัยของราชวงศ์Savoy แต่ตอนนี้เต็มไปด้วยงานศิลปะที่ทันสมัยที่นำมาเพิ่ม

7.ชั่วโมงแห่งความสุขของโตริโน่,Happy hours, aperitivi ในโตริโน

Torinesi หรือชาวตอริโนทำงานค่อนข้างหนักแต่จากนั้นพวกเขาก็ผ่อนคลายอย่างมีสไตล์ หลังจากการทำงานวัฒนธรรมที่Torino ก็คือการมีกิจกรรมเรียกน้ำย่อย savoring aperitivi (ที่เรียกว่า apericena) เป็นการปล่อยตัวให้อร่อยไปกับเครื่องดื่มและอาหารเรียกน้ำย่อยคล้ายกับช่วงHappy Hours แบบชาวอเมริกัน ตกเย็นTorinesi มักจะไปพบกันที่บาร์ apertivo หลายแห่งก็ให้บริการบุฟเฟ่ต์อาหารเรียกน้ำย่อยแบบที่สามารถใช้แทนสำหรับอาหารค่ำได้เลย ถ้าชอบpeople watching ให้ไปแถวPiazza Vittorio มันคือสถานที่ที่จะไปนั่งดูสาวอิตาเลียนที่สวยไม่แพ้นางแบบจากมิลาโนมาชุมนุมกัน

หรือจะไปลอง apertivo สมัยใหม่ในย่านSan Salvario ริมแม่น้ำ Po ก็ไม่ผิดหวัง

บาร์ Aperitivo

ส่วนใหญ่บาร์เหล่านี้มันก็คือร้านกาแฟนั่นเองร้านพวกนี้เปิดเสริฟชากาแฟแต่เช้ากับอาหารแบบเบเกอรี่หรือแซนวิชแต่พอตกเย็นเค้าก็แปลงสภาพเป็นบาร์เสริฟเหล้าaperitivoพร้อมของว่างหลากชนิดที่เราอาจทานแบบbuffetจ่ายเหมาได้ ขอแนะนำสถานที่ๆน่าจะไปลองaperitivoตามประเพณีชาวโตริโน

- Caffe San Carlo

เปิดมาตั้งแต่ปี 1822,ร้าน San Carlo ถือเป็นร้าน apertitvo เก่าแก่และโอ่อ่าสุดๆแห่งหนึ่งของเมืองมันมีบรรยากาศเหมือนบอลรูมตามโรงแรมใหญ่ๆที่เข้าไปแล้วจะเจอโคมระย้าที่ทำจากแก้วมูราโนพื้นหินอ่อนจากเมืองคาราร่าถ้าชอบความเก๋าก็ต้องไปลองaperitif buffet ที่นี่แล้วสั่งdry Martini หรือ Campari มาดื่มก่อนย้ายไปบาร์อื่น

• Piazza San Carlo, 156. +39 (0)11 532586.

- Caffe Torino

Aperitivo แบบจารีตประเพณีโตริโนแท้หาทานได้ที่นี่อยู่อีกมุมหนึ่งของอาเขตคนละฝั่งกับร้านCaffe San Carlo,เปิดตั้งแต่ปี 1903 ตกแต่งในสไตล์Art Nouveau ที่นี่โดดเด่นเพราะเครื่องดื่มคอกเทลที่ชื่อNegroni ที่ประกอบด้วยส่วนผสมของ Martini Rosso, Campari และ gin. บรรยากาศที่นี่ไม่เป็นทางการเหมือนร้านแรก ราคาก็ย่อมเยากว่า

• Piazza San Carlo 204, +39 (0)11 545118, caffe-torino.it.

- Caffe Mulassano

ที่นี่เปิดมา 150 ปีแล้ว, ร้านMulassano เสริฟเหล้าอแปริติฟกลิ่นหอมสูตรที่ร้านคิดขึ้นเองกลั่นเองแล้วทุกคนที่สั่งมันก็จะสั่งควบคู่กับแซนวิชจานเด็ดของร้านที่ชื่อ"tramezzini" มันจะถูกทำสดๆเดี๋ยวนั้นโดยบาร์เทนเดอร์คนเดียวกับที่ชงดื่มให้เรา ราคาก็ €5 ถ้ายืนดื่มและทานที่ bar,หรือ €7 ถ้าอยากนั่งทานที่โต๊ะ

• Piazza Castello, 15, +39 (0)11 547990, caffemulassano.com.

- Caffe Platti

ร้านกาแฟประวัติศาสตร์อีกร้านที่ต้องมาก็คือร้านCaffe Plattiที่มีการตกแต่งแบบยุค belle epoque เปิดแต่ชาวเช้าเสริฟกาแฟและ "biccerin" กาแฟสูตรเมือง Turinจนตกเย็นก็เริ่มเสริฟaperitifกับบรรดา canapes, pizzette หรือเค็กต่างๆที่มาจากส่วนเบเกอรี่ของร้านเองราคาเริ่มต้นจาก €5.

• Corso Vittorio Emanuele II 72, +39 (0)11 5069056, platti.it.

พูดมาแต่ร้านกาแฟประวัติศาสตร์แบบคลาสิกอายุเป็น100ปี ขอแนะนำร้านที่มันวัยรุ่นทันสมัยบ้างเพราะจริงๆแล้วโตริโนมันดังเรื่องวัยรุ่นและความสมัยใหม่ให้ลองไปที่บาร์นี้ดู

- Lobelix

ที่นี่เปิดแต่หัวค่ำซึ่งจะมีคอ็กเทลแปลกๆอาหารจานเท่ห์ๆที่ทยอยเสริฟเรื่อยๆ มันคือจุดเริ่มต้นของปาร์ตี้ที่ไม่จบง่ายๆเนื่องจากพอตกดึกร้านนี้มันจะแปลงสภาพเป็น dance clubs ย่อมๆที่ทำให้ลูกค้าได้warm upก่อนย้ายไปต่อที่clubจริง

• Piazza Savoia 4, +39 (0)11 4367206.

cr.pic.from:http://punchdrink.com

เครื่องดื่ม aperitif

มารู้จักเครื่องดื่มวัฒนธรรมของช่วงแบบนี้ ที่เป็นเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยโดยเฉพาะ ต้องบอกว่าส่วนใหญ่ถือกำเนิดในอิตาลีภาคเหนือนี่แหละ

Cinzano

มันคือเหล้า vermouths ผลิตจากตอริโนตั้งแต่ปี 1757 โดยร้านสมุนไพรของพี่น้องสองคนคือ Giovanni Giacomo และCarlo Stefano Cinzanoพวกเค้าได้คิดสูตร "เวอร์มุต rosso" ขึ้นมาใหม่ (เวอร์มุตสีแดง) โดยใช้ "พืชที่มีกลิ่นหอมจากเทือกเขาแอลป์” ในอิตาลีโดยที่สูตรนี้มี 35 ส่วนผสม (รวมทั้งมินท์, โหระพา, และยาร์โรว์) มันกลายเป็นที่รู้จักในนาม"เวอร์มุตตอริโน"ได้รับความนิยมโดยสังคมคนชั้นกลางแห่งตูรินและภายหลังกลายมาเป็นเครื่องดื่มสุดโปรดของยอดนักรักชื่อCasanova จนคนเข้าใจว่ามันเป็นยาโด๊ป

Martini

จริงๆแล้วมาร์ตินี่คือค็อกเทลที่ทำด้วยจินและเวอร์มุตและประดับด้วยมะกอกหรือมะนาวฝาน ถือว่ามาร์ตินี่ได้กลายเป็นหนึ่งในที่รู้จักกันดีในบรรดาผู้ชื่นชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผสม ในขณะMartino ก็เป็นเหล้าเวอร์มุตของอิตาลีที่ตั้งชื่อแบรนด์ตามผู้ก่อตั้งที่มีชื่อว่าMartino & Rossi ที่ทำบริษัทโรงกลั่นชื่อ Distilleria Nazionale di Sportivo di Vino ในเมืองตอริโน แต่ต่อมาในปี 1863 มีการขายหุ้นใหญ่ให้กับนาย Alessandro Martiniจึงมีการเปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็น Martini & Rossi จึงเหมือนกับว่าMartiniมันกลายเป็น Generic Brand ทั้งๆที่Brand Martini มันคือเหล้าเวอร์มุตแต่มันแค่เอามาผสมGinอีกหน่อยก็กลายเป็นcocktailชื่อ Martini ไปแล้ว

ในอิตาลียังมีเหล้าaperitifดังๆอย่าง Campari หรือ Aperol ที่มาจากเมืองmilanoและPadua ที่ไม่ใช่เหล้าเวอร์มุตแต่เป็นBitter หรือเหล้าขมที่จะพูดถึงตอนเราไปเที่ยวมิลาน

8. Torino รับประกันในเรื่องการรับประทานอาหารอร่อย

Torino หมายถึงการกินและดื่มอย่างมีสไตล์ ความเพลิดเพลินกับอาหารและไวน์เป็นวิถีชีวิตในตอริโน และรอบๆภูมิภาค Piedmont

ผู้มาเยือนเขตนี้จะต้องประทับใจกับอาหารแบบTorineseแท้ๆหรือบางครั้งมักเรียกว่า Piedmontese Cuisineที่เหมือนจงใจออกแบบมาให้เข้ากับไวน์ท้องถิ่นชั้นดีอย่างBarolo และ Barbarescoที่ติดอันดับtop of Italian wine จึงขอแนะนำร้านอาหารที่น่าสนใจ ในโตริโนจากหนังสือ Guide MICHELIN 2016 เริ่มจากร้านที่มิชเชแลงมอบตำแหน่งที่เรียกว่า Bib Gourmand คืออร่อยคุ้มค่าราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับร้านทั่วไปของเมืองและค่าครองชีพของเมืองนั้นๆสังเกตุว่าจะมีหัวตุ๊กตามิชเชแลงเลียริมฝีปากเป็นสัญลักษณ์

1. ร้าน Consorzio ที่อยู่ via Monte di Pietà 23, 10122 Torino

อาหารแบบเปียดมอนท์แท้ Cuisine Piémontaise

ราคาแบบจัดชุด(menu)เริ่มจากต่อหัว 26 EUR จนถึง 45 EUR หากสั่งแบบ a la carte

2.ร้านScannabue Caffè Restaurant ที่อยู่ largo Saluzzo 25/h, 10125 Torino

อาหารแบบเปียดมอนท์แท้ Cuisine Piémontaise

ราคาแบบจัดชุด(menu)เริ่มจากต่อหัว 30 EUR จนถึง 60EUR หากสั่งแบบ a la carte

สำหรับร้านที่ได้ Michelin 1 star ที่น่าสนใจก็มี3ร้านนี้

1.ร้าน Vintage 1997 ที่อยู่ piazza Solferino 16/h, 10121 TORINO

อาหารอิตาเลียนแบบสร้างสรร Cuisine Italienne|Créative

ราคาแบบจัดชุด(menu)เริ่มจากต่อหัว 40 EUR จนถึง 106 EUR หากสั่งแบบ a la carte

2.ร้าน Vo ที่อยู่ via Provana 3/d, 10123 Torino

อาหารแบบสร้างสรร Cuisine Créative

ราคาแบบจัดชุด(menu)เริ่มจากต่อหัว 45 EUR จนถึง 82 EUR หากสั่งแบบ a la carte

3.ร้าน Del Cambio ที่อยู่ piazza Carignano 2, 10123 TORINO

อาหารแบบภูมิภาค Cuisine Régionale

ราคาแบบจัดชุด(menu)เริ่มจากต่อหัว 35 EUR จนถึง 150EUR หากสั่งแบบ a la carte

สำหรับร้านหลังสุดนี้คือร้านประวัติศาสตร์ของเมืองถือเป็นภัตตาคารในระดับตำนานถ้าเลี้ยงแขกผู้ใหญ่หรือลูกค้าพิเศษคงต้องไปครับ Ristorante del Cambio เปิดมาในปี 1757 โด่งดังมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 ยังคงความสง่างามและความพิเศษมาถึงทุกวัน Del Cambio มีสถานโอ่อ่าและไวน์ลีสที่เป็นระดับ high-endพร้อมบริกรในชุดทักซิโด้ให้บริการ

9. Torino เป็นต้นฉบับของEataly

ในเดือนมกราคม 2007 นักธุรกิจอิตาลีชื่อว่า Oscar Farinetti ได้ดัดแปลงโรงงานเวอร์มุตใน Turin เปิดร้านชื่อ Eataly เป็นสาขาแรกร้านนี้ตั้งอยู่ในอำเภอ Lingotto ของเมืองตูรินซึ่งเดินทางสะดวกแค่จับรถไฟใต้ดินไปที่สถานนี Lingotto มันเป็น "Mega store" ที่ "ผสมผสานเอาความคึกคักของตลาดแบบfarmer's market ในยุโรปเข้ากับศูนย์อาหารระดับไฮเอนด์และศูนย์การเรียนรู้การทำอาหารยุคใหม่เข้าด้วยกัน”Farinetti ประสบความสำเร็จมากและได้เปิดที่อื่นๆ อีกหลายแห่งในอิตาลีตามมาและในอเมริกาที่New Yorkกับ Chicago

ตอนนี้มันเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก Eataly เป็นเหมือนเวทีการนำเสนออาหารอิตาเลียนที่รวมทุกรูปแบบไว้ภายใต้หลังคาเดียวกัน Eataly เหมือนเป็น shopping mall ที่มีแต่ของกินเช่น

มีSalumiหลายร้อยชนิดของอิตาลีที่แผนก Salumeria (cured meat) หรือทุกๆประเภทของเนยแข็งที่แผนกFormaggi หรือช็อคโกแลตระดับPrima Classe ตลอดจนเบียร์ระดับโลกจากหลายประเทศหรือไวน์ที่มาเป็น warehouse ไม่นับร้านอาหารพิเศษ8รูปแบบที่มีทั้งสเต็กเฮาส์,ร้านอาหารทะเล,ร้านพิชซ่าและภัตตาคาร Slow Food ที่ เป็นconcept ของ Eatery

10. Torino เป็นเมืองของต้นตำหรับรถอิตาเลี่ยน

Torino หมายความว่าบ้านแห่งซาวอย แต่ก็ยังเป็นบ้านของเฟียตFIAT ที่ย่อมาจากชื่อเต็มว่า Fabbrica Italiana Automobili Torino หรือโรงงานผลิตรถอิตาเลียนแห่งตูริน

เฟียตเป็นรถของตระกูล Agnelli ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ของพระมหากษัตริย์ในอดีตของอิตาลีมันเป็นความภูมิใจของชาวตอริโน ท่านที่ชอบรถยนต์สามารถไปเที่ยว •โรงงานของเฟียตในเขต Lingotto คือLingotto Pinacotecaซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่โดยสถาปนิกชาวอิตาเลียนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เรนโซ ปิอาโน มีงานศิลปะมากมายได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว Agnelli •พิพิธภัณฑ์ยานยนต์แห่งชาติในตูรินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนรักรถอิตาเลี่ยนโดยเฉพาะคอลเลกชั่น วินเทจของ Alfa Romeo, Bugatti, Ferrari, FIATและ Lancia

คราวหน้าเราจะออกจากโตริโนเพื่อตระเวณไปรอบๆเขตเปียดมอนเต้เพื่อค้นหาร้านอาหารดีๆที่ควรคู่กับไวน์มีระดับอย่าง Barolo และ Barbarescoที่ติดอันดับtop ของไวน์จากอิตาลี่ มันต้องเป็น road trip ที่มีสาระน่าจดจำทริปหนึ่งอย่างแน่นอน

Visit my other Food&Travel site

Steak&Wine

(use the following link)

#1 

http://khunpusit.wix.com/steakandwine

 

#2

This site will be regular updated 3-5 times a week.

 

#3

Please subscribe using your e-mail

bottom of page