เที่ยวเขตPiedmonte part.I
..."มาที่นี่ให้ลอง ‘Bicerin’ มันเป็นเครื่องดื่ม ร้อนมีส่วนผสมของช็อคโกแลต,เอสเพรสโซและวิปปิ้งครีมซึ่งจะต้องเสริฟในแก้ว เล็กมีก้านแบบเฉพาะของมัน ก็คล้ายกับถ้าเราไปเที่ยวกรุงเวียนนาเราก็ต้องสั่ง Wiener Melange (กาแฟเวียนนีส)ทานกับเค็กSacher......."
เปียดมอนเต้หรือ ตีนเขา- คือความหมายของเขตนี้แปลตรงเลยก็คือ Pied แปลว่า’ตีน’ ส่วนMonte แปลว่าภูเขา ที่ชื่อแบบนี้ก็เพราะว่าบริเวณนี้ของอิตาลีเป็นที่ราบอยู่ตรงตีนเขาจุดเริ่ม ต้นทางทิศตะวันตกของ เทือกเขาแอลป์AlpsและเทือกเขาApenninesแอปเปนีนี่ (ออกเสียงแบบอิตาเลียน)ที่เป็นแนวเขาจากเหนือลงใต้เหมือนกระดูกสันหลังของคาบสมุทรอิตาลี ประกอบด้วยที่ราบลุ่มแม่น้ำโป Po ที่กว้างขวาง ถือเป็นพื้นที่ที่ อุดมสมบูรณ์สุดๆของอิตาลีมีทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงวัวสลับกับธัญพืชและมี พื้นที่ปลูกข้าวเมล็ดอ้วนสั้นที่นำไปทำrisotto ถีงสามในห้าของการผลิตข้าวอิตาเลียนทั้งหมดโดยเฉพาะในแถบอำเภอ Vercelli และNovara ตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองตูริน ทิวทัศน์ก็สวยงามจะเห็นทิวแถวของ ต้นป็อปลาร์ที่ค่อยๆลดระดับลงไล่ไปเข้าสู่ย่านที่เป็นแหล่งปลุกองุ่นทำไวน์ท ี่ดีที่สุดของประเทศ มันคือย่าน Albaที่ทำไวน์แดงรสนุ่มสไตล์burgundy ของฝรั่งเศสอย่างBaroloและ Barbaresco แต่ถ้ารสนิยมชอบไวน์ขาวมีฟองคงต้องขับรถต่อไปถึงเมือง Asti และสำหรับเมืองAlbaมันมีความพิเศษสำหรับคอgourmetตรงที่ๆมีการจัดงาน เห็ดTruffle ประจำปี และแถบนี้ยังผลิตชีส Gorgonzola บ่งบอกถึงความสุนทรีในเรื่องการกินแบบไม่เร่งรีบ
แต่ก็ไม่เฉื่อยแฉะมากเหมือนเมืองทางตอนใต้เพราะเขตนี้ถือเป็นย่านอุตสาหกรรม ที่สำคัญของอิตาลีด้วย มีสถานีพลังงานไฟฟ้าพลังน้ำผลิตไฟฟ้าสำหรับโรงงานสิ่งทอ และอุตสาหกรรมถลุงเหล็ก,วิศวกรรมเคมีและผลงานที่ขึ้นชื่อของตูรินเมืองหลวง ก็คือเป็นบ้านเกิดของรถเฟียตที่ถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่อันดับต้นๆของ โลก และ'ลันชา'รถที่สวยที่สุดที่ผมเคยครอบครอง(Lancia Beta Coupe 2000)
ผมจะขอพาเที่ยวเมืองหลวงของ Piedmonte ก่อนเลย เมือง Torino ตูรินหรือโตริโน ตั้งอยู่เชิงเขาแอลป์ในภาคเหนือของอิตาลีที่เป็นเหมือนอัญมณีที่ซ่อนอยู่ จริงๆแล้ว มันสมควรจะได้รับความสนใจมากกว่านี้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบสไตล์หรูหรา อยู่โรงแรมดีกินภัตตาคารชั้นดี Torino เป็นเมืองประวัติศาสตร์ของอิตาลีที่น่ารักน่าอยู่ มันเป็นเมืองที่ประทับของพระราชวงศ์ ซาวอย ผู้ปกครองแว่นแค้วนแถบนี้ก่อนที่อิตาลีจะเป็นประเทศ และแน่นอนเป็นบ้านของ Juventus ทีมม้าลายที่มีแฟนไปทั่วโลก มันยังเป็นสวรรค์ของนักสกีโดยเฉพาะตรงพรมแดนฝรั่งเศสที่เรียกว่า’Milky way’ซึ่งไม่นานมานี้ได้รับเกรียติให้เป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกฤดูหนาว 2006
cr.pic from:fsitaliane.it
เพื่อจะให้เป็นการมาเที่ยวโตริโนเป็นไปแบบมีสไตล์ปัจจุบันเราสามารถนั่งรถไฟ เฟรียตซาโรซ่าFrecciarossa 1000 มาจากกรุงโรมา รถไฟหัวกระสุนสีแดงของอิตาเลียมีนิคเนมว่า เซฟิโร Zefiro มันถูกพัฒนาโดย JV บริษัทร่วมทุนระหว่างBombardier TransportationของCanadaและ Ansaldo Breda ของItaly ที่เท่ห์มากก็คือมันถูกออกแบบโดยแบรโตเน่ Bertone ผู้ที่มีผลงานออกแบบรถLamboghini Countach และรถsuper carชื่อดังของอิตาลีทั้งหลาย ข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับมาตรฐานทางเทคนิคในเชิงพาณิชย์จะทำความเร็วได้ที่ 360 กิโลเมตร / ชั่วโมง (220 ไมล์ต่อชั่วโมง) แต่ในขั้นต้นเริ่มที่ 300 กิโลเมตร / ชั่วโมงไปก่อน (190 ไมล์ต่อชั่วโมง) จริงๆแล้วมันผ่านการการทดสอบด้วยการทำความเร็วได้ถึง 400 กิโลเมตร / ชั่วโมง (250 ไมล์ต่อชั่วโมง)สบายๆ
มาพูดถึง 10 เหตุผลดีๆว่าทำไมเราถึงควรมาเที่ยวที่ Torino.... เหตุผลดีๆที่ควรมาเที่ยวเมืองตูรินหรือโตริโน ก็คือ
1. ร้านกาแฟ coffee shop
คุณคงนึกว่ามันไม่น่าสนใจแต่ที่นี่มันคือร้านกาแฟประวัติศาสตร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมกาแฟชั้นสูงของยุโรป หลังจากที่กาแฟเข้ามาจากอาฟริกาถึงยุโรปครั้งแรกที่เวนิสเนื่องจากเป็นเมืองท่าใหญ่ จากนั้นก็มีการเปิดร้านกาแฟร้านแรกขึ้นชื่อว่าCaffè Florian เมื่อปี1720 แล้วกาแฟมันก็แสดงศักยภาพของมันเองโดยการเข้าไปแฝงตัวในสังคมชั้นสูงของเมืองใหญ่ในยุโรปอย่างเวียนนา,ปารีส แต่ไม่ค่อยมีใครทราบว่าที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ก็ที่โตริโนนี่แหละครับ
มาที่นี่ให้ลอง ‘Bicerin’ มันเป็นเครื่องดื่ม ร้อนมีส่วนผสมของช็อคโกแลต,เอสเพรสโซและวิปปิ้งครีมซึ่งจะต้องเสริฟในแก้ว เล็กมีก้านแบบเฉพาะของมัน ก็คล้ายกับถ้าเราไปเที่ยวกรุงเวียนนาเราก็ต้องสั่ง Wiener Melange (กาแฟเวียนนีส)ทานกับเค็กSacher ( ควรไปนั่งร้านกาแฟแถวจัตุรัส Stephansplatz) หรือถ้าไปเที่ยวเวนิสก็ต้องดื่ม Bellini (แน่นอนว่าควรไปดื่มที่จัตุรัส San Marco) หรือ ไปปารีสก็ต้องลอง Kir Royale นั่นแหละ(ดื่มแถวไหนก็ได้ที่เป็น ปารีส) แม้ว่า2อย่างหลังไม่ใช่กาแฟแต่มันถือเป็นเครื่องดื่มประจำเมืองที่เราคงต้อง ลอง และถ้าเป็น โตริโนต้องไปที่จตุรัส Piazza della Consolata เพราะไม่มีที่ไหนที่จะดีไปกว่าการไปลองที่ร้านที่เป็นต้นกำเนิดของมันคือ Caffè al Bicerin ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1763 ที่นี่ เป็นร้านโปรดของอเล็กซองด์ดูมาส์ Alexandre Dumas, Puccini และ Nietzsche พวกเขามาที่นี่เพราะชอบช็อกโกแล็ตร้อนต้นตำหรับของโตริโน Turinese cioccolateria (chocolate house). แน่นอนเลยว่าBicerinนั้นดังเพราะนักเขียนระดับโลกอย่าง อเล็กซองด์ดูมาส์ Alexandre Dumas ลูกค้าชาวฝรั่งเศสที่เป็นเจ้าของบทประพันธ์อย่าง, The Count of Monte Cristo, The Three Musketeers ที่เรารู้จักดี
นอกจากนี้ร้านกาแฟประวัติศาสตร์ของตูรินที่ควรต้องไปลองก็คือ Baratti & Milano ก่อตั้งขึ้นในปี 1858 โดยเฟอร์ดินัน Baratti และ Edoardo Milano เป็นร้านขายขนมและสุรามาก่อนแล้ว
จึงมาเริ่มขายกาแฟในปี 1991 มีชื่อเสียงเรื่องขนมอร่อยโดยเฉพาะที่ต้องสั่งก็คือ gianduiotti (ช็อคโกแลตผสมกับเฮเซลนัท ผลิตมาตั้งแต่ปี1865) ที่นี่คือร้านกาแฟและขนมเพรสทรีของพระราชาอย่างแท้จริงเพราะเป็นร้านประจำ ของราขวงศ์Savoyซึ่งทางพระราชวังจะสั่งขนมและกาแฟจากที่นี่เท่านั้น มาลองทานเลยครับมันหรูสุดๆสมกับเป็นking's coffee house จริงๆ และอีกร้านประวัติก็คือ Caffè Fiorio เปิดตั้งแต่ปี 1780 รับรองรับแขกบ้านแขกเมืองมานับไม่ถ้วนที่อยู่แถวถนน โป( Via Po )เลขที่8ระหว่าง Piazza Castello และ Piazza Vittorio Veneto
2. ช็อกโกแล็ต ไม่ใช่เฉพาะคอกาแฟเท่านั้นนะครับเพราะบางท่านอาจใจสั่น ให้สั่งช็อกโกแล็ตร้อนได้เลยครับเพราะ Hot Choccolate ที่ดีที่สุดในโลกหาได้ที่ร้านกาแฟที่ผมกล่าวถึงนี้ด้วย เพราะ Turinผลิตช็อกโกแล็ตที่ดีที่สุดของอิตาลี สำหรับผู้ชื่อชอบช็อกโกแล็ต Cioccolato Torino เป็นตำนานของช็อกโกแล็ตขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของโลกและยังแหล่งผลิตถั่ว เฮเซลนัทที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปอีกด้วยจึงไม่น่าสงสัยว่าทำไมช๊อกโกแลตที่นี่จึงมักไส่ถั่วกรุบๆมาด้วยเสมอ ลองแวะชิมตามร้าน confitteria Torinese ให้ลองสั่ง
• cremini ช็อคโกแลตมูทและ Tartufi • Gianduja, gianduiotti, Rocher และ CriCri ทำจากช็อคโกแลตและเฮเซลนัท • Nocciolati ช็อคโกแลตบาร์ที่มีเฮเซลนัท • Preferiti ช็อคโกแลตที่สอดไส้เชอร์รี่
จริงๆคนไทยเราได้คุ้นเคยมานานแล้วสำหรับกาแฟและช็อกโกแล็ตจากตูรินหากใครชอบ เข้าsupermarket คงรู้จัก กาแฟ Lavazza และ Nutella ช็อกโกแล็ตทาขนมปัง แล้วก็ Ferrero Rocher ช็อคโกแลตผสมเฮเซลนัทที่เรามักจะได้ทานจากกระเช้าของขัวญวันปีใหม่นั่นแหละครับ
โปรดติดตามเหตุผลอื่นๆ(3-10)ที่เราควรมาเที่ยวเมืองตูรินหรือโตริโนในตอนต่อไป