My Trips:Munich
..'ผมอยากจะเพิ่มหัวข้อหรือcategory ใหม่ขึ้นมาอีกคือ ‘My Trips’ที่จะเล่าประสบการณ์(ส่วนหนึ่ง)ในการเดินทางของผมเองเฉพาะทริปที่น่าจดจำจากอดีต.."
ผมเริ่มทำblogนี้มาประมาณ2อาทิตย์กว่าๆแล้ว:ซึ่งก็มีfeedbackที่ดีพอสมควรทั้งๆที่ยังไม่ได้โปรโมทครับกำลังลองผิดลองถูกก่อนขึ้นsiteถาวร ต้องขอขอบคุณผู้ติดตาม และต้องขอโทษกับspellingที่มีพิมพิ์ิผิดบ่อยๆครับ(แต่เมื่อกลับมาอ่านเจอจะตามแก้ทุกครั้งครับ)
นอกจากหัวข้อเรื่อง ‘Trips’ ซึ่งเป็นเรื่องท่องเที่ยวของประเทศต่างๆที่เป็น"foodie destinations" โดยจะเจาะเป็นประเทศไป ในขณะที่ หัวข้อเรื่อง ‘Tastes’ที่เกี่ยวกับเรื่องวัฒนธรรมอาหารการกินของประเทศนั้นซึ่งก็ยังมีต่อไปไม่หยุด ผมอยากจะเพิ่มหัวข้อหรือcategory ใหม่ขึ้นมาอีกคือ ‘My Trips’ที่จะเล่าประสบการณ์(ส่วนหนึ่ง)ในการเดินทางของผมเองเฉพาะทริปที่น่าจดจำจากอดีตที่ผ่านมาเน้นรูปที่ผมถ่ายเองโดยอาจเป็นกึ่งรีวิวและแนะนำแบบสบายๆตามแนวทางของผม
สำหรับตอนแรกของ My Trips ผมขอเริ่มจากทริปเยอรมันซึ่ง ขอเริ่มที่มิวนิคครับ หากท่านไปเที่ยว มิวนิคท่านก็คงจะต้องไปแถวจัตุรัสศาลากลางซึ่งภาษาเยอรมันเค้าเรียกว่า rathaus แน่นอนอยู่แล้วใช่ไม๊ครับ?ผมหมายถึงจัตุรัสพระแม่มาเรีย หรือ Marienplatz นั่นแหละครับ ทีนี้เรื่องที่ผมจะเล่ามันคงไม่ใช่ประวัติของMarienplatz เพราะท่านอ่านได้จากในpantip.comที่มีคนเขียนไว้เยอะ แต่จะขอพูดถึงร้านอาหารเยอรมันชื่อดังที่อยู่ทีจัตุรัสนี้ที่ชื่อ Donisl ดอนิสเซิลถ้าหันหน้าเข้าศาลากลางมองไปทางซ้ายมือก็จะเจอครับ ที่นี่เปิดมาตั้งแต่ปี1715 (รูปเล็กขวามือเป็นร้านเก่ารูปบนสุดคือร้านที่ปรับปรุงใหม่) ที่นี่เป็นร้านต้นตำหรับอาหาร บาวาเรียน ร้านหนึ่งที่ต้องลองนะครับแม้จะไม่หิวมากก็ถือว่าเข้าไปนั่งพักเบรคจากการเดินช็อปปิ้งเพื่อทานแอปเปิ้ลพาย (apfelstrudel) หรือถ้าจะดื่มเบียร์เย็นๆก็ดีแต่ต้องยี่ห้อนี้เลยครับHacker-Pschorr อัคเคอะชัวร เบียร์บาวาเรียนเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1417 ซึ่งเคยมีบริวเวอรรี่อยู่ที่หัวมุมถนน Sendlinger ตัดกับถนนHackปัจจุบันเป็นร้านอาหารบาวาเรียนที่ชื่อว่า Altes Hackerhaus แปลว่าบ้านเก่าของอัคเคอะ
จริงๆแล้วผมเคยมาร้านนี้เมื่อ10กว่าปีมาแล้วแต่เค้าเพิ่งมีการปิดปรับปรุงrenovateใหม่เมื่อมีโอกาสจึงกลับไปลองอีกครั้งเมื่อไม่นานนี้ ทุกอย่างดูสดใสขึ้นสว่างขึ้นกว่าร้านเดิมแต่ก็หมดความขลังแบบตึกเก่าไปพอสมควร
เนื่องจากคราวนี้เข้ามาในช่วงบ่ายแก่ๆซึ่งยังอิ่มจากมื้อกลางวันอยู่จึงสั่งแค่ไส้กรอกหมูย่างBratwurst แบรทเวิร์สต(จะมีการเขียนถึงbratwurstละเอียดอีกทีตอนผมพาไปเที่ยวNürnberg เนิร์นแบร์ก หรือ Nuremberg ในภาษาอังกฤษ ซึ่งเมืองนั้นคือต้นตำหรับของไส้กรอกชื่อดังนี้) เพราะมันbasicที่สุดในเมนูเพื่อทานคู่กับ weisseเบียร์Hacker-Pschorr นั่นแหละครับจริงๆมามิวนิคถ้าจะสั่งไส้กรอกพื้นเมืองเค้าก็ต้องสั่งไส้กรอกขาวOriginal Münchner Weißwurst ที่เป็นเหมือนไส้กรอกต้มซึ่งผมไม่ชอบเท่าไร
ผมสั่งอาหารแล้วก็นั่งดื่มเบียร์รออาหารไปไม่ได้คาดหวังอะไรมากแต่พอถึงเวลามาเสริฟต้องยอมรับจริงๆครับว่าไม่ธรรมดาที่สำคัญคือแตกต่าง เริ่มจากอาหารนั้นเนื่องจากเค้าต้องการให้คงความร้อนได้นานๆก็เลยเสริฟมาในกะทะเหล็กแบบอาหารจานร้อนทั่วไปแต่ร้านนี้ใช้กะทะเหล็กยี่ห้อTurk กะทะดังของเยอรมันที่เริ่มผลิตตั้งแต่ปี1857 ซึ่งมีผู้ก่อตั้งคือAlbert Karl Turk
มันเป็นกะทะเหล็กอัดขึ้นรูป (Forged)โดยกรรมวิธี"Open-die hot forged" มันแตกต่างจากกะทะเหล็กหล่อ (Cast)ที่เชฟทั้งหลายใช้ในครัวตรงที่มันเบากว่าแต่ยังคงรักษาความร้อนไว้ได้นาน กะทะTurkหาซื้อได้ในร้านเครื่องครัวมีระดับใน มิวนิค เช่นร้านManufactum Warenhaus ที่อยู่ติดกับร้านขายgourmet foodชื่อดังที่ชื่อที่ชื่อDallmayrไกล้ๆ จตุรัสมาเรียนนี่แหละครับ(ผมจะมีการรีวิวต่อไป) กะทะTurkมีหลายแบบแต่รุ่นที่ นิยมสังเกตุง่ายก็คือรุ่นที่มีลายบากตัดกันcriss-cross
อีกอย่างที่ประทับใจก็คือ Mustard ของร้านใช่แล้วครับถ้าเรามาทานไส้กรอกในยุโรปเราก็ควรทานกับมัสตาดเพราะมันเป็นของคู่กันมานมนานตั้งแต่สมัยโรมันแล้ว ไม่ใช่ทานกับซอสมะเขือเทศหรือketchup ซึ่งเป็นของอเมริกันเกิดมาทีหลังแต่ไม่ได้มีข้อห้ามใดๆนะครับเพียงแต่ร้านในยุโรปดีๆเค้าอาจจะไม่มีคัตชัปเตรียมไว้เสริฟ และที่Donislนี่มี มัสตาดเป็นของร้านเลยสามารถซื้อกลับบ้านอีกต่างหาก คนเยอรมันชอบมัสตาดมากและมีรสชาติหลากหลายกว่าของทุกชาติคือไม่ใช่มีแต่เผ็ดฉุนเปรี้ยวขึ้นจมูกอย่าเดียวแบบหวานผสมนำ้ผึ้ง,น้ำตาลแดง,ซอสแอปเปิ้ลก็มี เรียกว่าหลากรสโดยเฉพาะมัสตาดของบาวาเรีย เพราะเค้าไม่ได้ใช้ทานกับไส้กรอกเท่านั้นเค้ายังใช้ทานกับขนมปังpretzel อบใหม่ๆอีกด้วย